1994 มีนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของแอโรวานาทองอินโดนีเซียแยกออกมาต่างหากว่า Scleropages aureu ส่วนทองหางเหลืองก็ได้มีการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์แยกออกมาอีกว่า Scleropages macrocephalus ในปี ค.
5-4. 8 เท่าของความกว้างลำตัว และ 3. 5-4 เท่าของความยาวส่วนหัว ปลาที่มีอายุน้อยบริเวณสันหลังจากจงอยปากไปจนถึงบริเวณโคนหางเกือบเป็นเส้น ตรง ปลาอโรวาน่า หรือ ปลาตะพัด โตเต็มที่มีความยาวประมาณ 1 เมตร น้ำหนักมากกว่า 7 กิโลกรัม ชอบอาศัยแหล่งน้ำบริเวณภูเขาที่มีน้ำไหลเอื่อยๆ ที่พื้นท้องน้ำเป็นหินปนทรายน้ำค่อนข้างขุ่นและเป็นกรดเล็กน้อย เป็นปลาที่มีไข่จำนวนน้อย ปลาขนาด 3-6 กิโลกรัม จะมีไข่ประมาณ 40-100 ฟองเท่านั้น เมื่อวางไข่แล้วจะฟักไข่ในปากขนาดไข่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1. 72 เซนติเมตร สามารถแบ่งตามทวีปที่พบได้ 4 ทวีป ดังนี้ 1. อะโรวาน่าทวีปเอเชีย 1. 1 อะโรวาน่าทองมาเลย์ ( Cross back) 1. อะโรวาน่าแดง ( Red Arowana) - แดงเลือดนก (Blood Red) - แดงพริก (Chilli Red) - แดงส้ม (Orange Red) - แดงอมทอง (Golden Red) 1. 3 อะโรวาน่าทองอินโดนีเซีย ( Red Tail Golden Arowana) 1. 4 อะโรวาน่าเขียว (Green Arowana) 2. อะโรวาน่าทวีปอเมริกาใต้ 2. 1 อะโรวาน่าเงิน (Silver Arowana) 2. 2 อะโรวาน่าดำ (Black Arowana) 2. 3 อะราไพม่า หรือ ปลาช่อนยักษ์ ( Aarapaima) 3. อะโรวาน่าทวีปออสเตรเลีย (Saratogos) 3. 1 อะโรวาน่าออสเตรเลียเหนือ (Nothern Saratoga) 3.
11) หรือ เพิ่มเติมรายการในบัญชีแนบท้ายใบอนุญาตให้ค้าเดิม ณ หน่วยงานท้องที่ปลายทาง 3 การนำหลักฐานไปแจ้งขอครอบครอง หรือขอค้า นั้น ให้ดำเนินการโดยเร่งด่วนทันที กรณีหากเป็นการดำเนินการในวันหยุดราชการ ให้นำหลักฐานดังกล่าวแจ้งท้องที่ปลายทางในวันเปิดทำการวันแรก ผู้ซื้อ 1. 15) ณ กรมประมง หรือ สำนักงานประมงจังหวัดท้องที่ปลายทาง 2. กรณีผู้ซื้อเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ค้า หรือ สป. 11) หรือ เพิ่มเติมรายการในบัญชีแนบท้ายใบอนุญาตให้ค้าเดิม ณ หน่วยงานท้องที่ปลายทาง 3. ต้องแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไขรายการในบัญชีแนบท้ายใบอนุญาตให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง
ปลาอโรวาน่าแดง พ่อแม่พันธ์ - YouTube
เมื่อจำหน่ายสัตว์ป่า ซาก หรือผลิตภัณฑ์ ให้แก่บุคคลใด ให้ผู้ขายออกหนังสือกำกับการจำหน่ายให้กับบุคคลนั้น ทุกครั้งที่มีการจำหน่าย 2. การกรอกข้อความในหนังสือกำกับการจำหน่ายฯ ให้เขียนครั้งเดียวและให้ตรงกันทั้งต้นฉบับและสำเนา 3. หนังสือกำกับการจำหน่ายตามข้อ 1 กรมประมงจัดพิมพ์เป็นเล่ม จำนวนเล่มละ 50 ฉบับ โดยมีหมายเลขกำกับเล่มและหมายเลขกำกับหนังสือ เรียงกันไปตามลำดับ มีสำเนา 2 ฉบับ ต้นฉบับ มอบให้แก่ผู้ซื้อ สำเนา ฉบับที่ 2 รวบรวมส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ออกอนุญาตให้ค้า ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ทุกเดือน สำเนา ฉบับที่ 3 ติดต้นขั้วไว้ และให้เก็บไว้ในที่ปลอดภัย ในสถานที่ทำการค้า 4. กรณีผู้ค้านำสัตว์ป่า หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าวเคลื่อนที่เพื่อการค้า ต้องขอรับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าเคลื่อนที่เพื่อการค้า (สป. 13) ด้วย ผู้ขาย 1. กรณีนำไปเลี้ยงดู (ครอบครอง) ต้องนำหนังสือกำกับการจำหน่ายที่ได้รับจากผู้ขาย ไปขอรับใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป. 15) ณ กรมประมง หรือ สำนักงานประมงจังหวัดท้องที่ปลายทาง 2 กรณีผู้ซื้อเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ค้า หรือ สป. 11 (ซื้อเพื่อนำไปจำหน่าย) ต้องนำหนังสือกำกับการจำหน่ายที่ได้รับจากผู้ขาย ไปขออนุญาตค้า (สป.
ผู้ประสงค์จะขออนุญาตค้าสัตว์ป่า 5 ชนิดดังกล่าว ซาก หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า 5 ชนิด ดังกล่าว ยื่นคำร้องขอรับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป. 11) ได้ ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้ 3. 1 เขตจังหวัดกรุงเทพมหานคร ติดต่อที่ ส่วนอนุญาตและจัดการประมง กรมประมง 3. 2 เขตต่างจังหวัด ติดต่อที่ สำนักงานประมงจังหวัด ณ ท้องที่ 4. ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องแสดงหลักฐานการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายของสัตว์ป่า ซาก หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว ดังนี้ 4. 5) หรือ 4. 2 หนังสือกำกับการจำหน่าย ตามแบบที่อธิบดีกำหนด 4. 13) 5. ใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป. 11) มีอายุ 1 ปี และต้องขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนวันหมดอายุ 6. ใบอนุญาต สป. 11 อนุญาตให้ค้าได้เฉพาะสัตว์ป่า ซาก ผลิตภัณฑ์ ตามชนิดและรายการที่ระบุไว้ในบัญชี แนบท้ายเท่านั้น การค้าหรือครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองนอกเหนือจากบัญชีแนบท้าย หรือนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาต มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 7. ผู้ได้รับใบอนุญาต สป. 11 ต้องดำเนินการค้าสัตว์ป่า ซาก หรือผลิตภัณฑ์ ณ สถานที่ทำการค้าที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตเท่า การจำหน่าย 1.
ร. บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ. ศ. 2562 ห้ามกระทำการใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ 1. ห้ามล่า (ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) 2. ห้ามเพาะพันธุ์ (ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) 3. ห้ามค้า (ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) 4. ห้ามครอบครอง (ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) 5. ห้ามนำเข้า ส่งออก หรือ นำผ่าน โดยปลาตะพัดที่จะส่งออกไปต่างประเทศจะต้องได้มาจากฟาร์มที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักเลขาธิการ CITES และต้องมีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์น้ำ ซึ่งโดยทั่วไปนิยมเครื่องหมายประจำตัวปลาตะพัดโดยการฝังไมโครชิป (ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ตลาดค้าปลาตะพัดมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นจึงมีการนำเข้าปลาตะพัดจำนวนมากซึ่งต้องควบคุมให้สามารถตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมายได้ กรมประมงจึงจัดทำฐานข้อมูลไว้บนเว็บไซต์ ให้ประชาชนเข้าไปสืบค้นได้. -สำนักข่าวไทย ดูข่าวเพิ่มเติม Top Viewed • อ่าน มากสุด ดูทั้งหมด ลูกสาว-แม่ยาย "จอนนี่ กองปราบ" ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาการสาหัส ล่าสุดทั้งคู่รู้สึกตัวแล้ว แต่แพทย์ยังต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ยังไม่สิ้นฤทธิ์ "บังลาย" หรือเฮียเก้า ผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลายคดี วิ่งหนีตำรวจขณะส่งตัวจากเจ้าหน้าที่เมียนมาให้ตำรวจไทย พนักงานสอบสวน สภ.